• »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle

username password
Navigation:  Home >> News >> News details
• Swtich Ethernet commercial and Industrial BELLCOMMS
อุปกรณ์กระจายสัญญาณ หรือ Ethernet Switch
ตราสินค้า BELLCOMMS
ผู้นำเข้าค้าส่งและปลีก

อุปกรณ์กระจายสัญญาณ หรือ Ethernet switch เป็นอุปกร์ที่ใช้ในระบบ Ethernet Networks หรือระบบแลน บริษัทเป็นผู้จำหน่ายภายใต้ตราสินค้า BELLCOMMS แต่เพียงผู้เดียวภายในประเทศและเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้านี้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน FCC, CE และ ROHS มีจุดเด่นคือขายในราคาสินค้าที่แข่งขันในตลาดได้และราคาที่เป็นธรรม โดยการคัดสรรสินค้าที่ดีมีคุณภาพมาจำหน่าย โดยมุ่งเน้นการบริการและการรับประกันหลังการขาย

โดยบริษัทมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายดังนี้
• 100Mbps Ethernet Switch ชนิด commercial และ Industrial, ไม่มีPoE
• 1000Mbps Ethernet Switch ชนิด commercial และ Industrial มี PoE
• 10Gbps Ethernet Switch ชนิด commercialและ Industrial, ไม่มี PoE

มีคุณสมบัติพิเศษดังนี้
• มาตรฐาน FCC, CE, ROHS
• มาตรฐานอื่นๆอีกมากมายที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
• ผลิตและจำหน่ายโดยบริษัทที่ได้รับมาตรฐาน ISO 9001:2015

การเลือกใช้งาน Ethernet Switch ระหว่าง Commercial Switch และ Industrial Switch มีดังนี้
Ethernet Switch มีให้เลือกตามการใช้งานอยู่สองชนิดคือ Commercial Switch ถูกออกแบบมาเพื่อทนกับสภาพอากาศแวดล้อมโดยรอบที่อุณหภูมิอยู่ในช่วง 0 ถึง 50 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับตัดตั้งภายในอาคารกับอุณหภูมิที่ไม่สูงมากนัก และ Industrial Switch ถูกออกมาเพื่อให้ทนกับสภาพแวดล้อมโดยรอบที่สูงอยู่ในช่วง -40 ถึง +75 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับการติดตั้งภายนอกอาคารหรือกลางแสงแดดที่มีความร้อนโดยจะต้องติดตั้งอยู่ภายในตู้อุปกรณ์สื่อสารภายนอกเท่านั้น

การเลือกใช้งานตามความเร็วในการรับส่งข้อมูล
ปัจจุบัน Ethernet Switch มีให้เลือกการใช้งานตามการรับส่งข้อมูลที่พอร์ตสื่อสารดังนี้
• ตามการรับส่งข้อมูลที่ 100Mbps Ethernet Switch
• ตามการรับส่งข้อมูลที่ 1000Mbps Ethernet Switch
• ตามการรับส่งข้อมูลที่10Gbps Ethernet Switch
• ตามการรับส่งข้อมูลที่ 40Gbps Ethernet Switch
• ตามการรับส่งข้อมูลที่ 100Gbps Ethernet Switch

การเลือกพอร์ตสื่อสารที่จะนำมาใช้งานในระบบ Ethernet Switch โดยจะมีพอร์ตที่เป็น Copper port ซึ่งมีหัวต่อเป็นชนิด RJ45 พอร์ตออกมาใช้งาน โดยใช้กับสายแลน หรือ Copper cable/LAN cable อ้างอิงตามมาตรฐาน ANSI/TIA-568-C.2 และ มีพอร์ตที่เป็น Fiber port ให้เลือกใช้งานอีก ซึ่งมีหัวต่อเป็นชนิดต่างๆดังนี้ เช่น ST, SC, FC, LC, MTRJ และ SFP โมดูลเป็นต้น โดยใช้กับสายใยแก้นำแสง Multimode หรือ Singlemode อ้างอิงตามมาตรฐาน ANSI/TIA-568-C.3 โดยทั้งสองดังกล่าวนั้นอยู่ในมาตรฐานของ OSI model 7 layer ในชั้นที่ 1 ที่เรียกว่า Physical layer

Copper port ทีจะต้องเลือกใช้งานมีมาตรฐานให้เลือกการใช้งานดังนี้
• มาตรฐาน IEEE 802.3i(10Base-T) การรับส่งข้อมูลที่ 10Mbps ใช้กับสาย Copper cable รุ่น Category 5,5E,6 หรือ 6A สามารถใช้งานได้ไกลที่ระยะทาง 100 เมตร
• มาตรฐาน IEEE 802.3u(100Base-TX) การรับส่งข้อมูลที่ 100Mbps ใช้กับสาย Copper cable รุ่น Category 5,5E,6 หรือ 6A สามารถใช้งานได้ไกลที่ระยะทาง 100 เมตร
• มาตรฐาน IEEE 802.3ab(1000Base-T) การรับส่งข้อมูลที่ 1000Mbps ใช้กับสาย Copper cable รุ่น Category 5,5E,6 หรือ 6A สามารถใช้งานได้ไกลที่ระยะทาง 100 เมตร
• มาตรฐาน IEEE 802.3an(10GBase-T) การรับส่งข้อมูลที่ 10Gbps ใช้กับสาย Copper cable รุ่น Category 6 หรือ 6A สามารถใช้งานได้ไกลที่ระยะทาง 100 เมตร
• มาตรฐาน IEEE 802.3bq(40GBase-T) การรับส่งข้อมูลที่ 40Gbps ใช้กับสาย Copper cable รุ่น Category 8 หรือ Class I,II สามารถใช้งานได้ไกลที่ระยะทาง 30 เมตร
• มาตรฐาน IEEE 802.3ab(40GBase-CR4) การรับส่งข้อมูลที่ 40Gbps ใช้กับสาย Twinaxial Copper cable สามารถใช้งานได้ไกลที่ระยะทาง 7 เมตร
• มาตรฐาน IEEE 802.3ab(100GBase-CR10) การรับส่งข้อมูลที่ 100Gbps ใช้กับสาย Twinaxial Copper cable สามารถใช้งานได้ไกลที่ระยะทาง 7 เมตร

Fiber port ทีจะต้องเลือกใช้งานมีมาตรฐานให้เลือกการใช้งานดังนี้
• มาตรฐาน IEEE 802.3z(1000Base-SX) การรับส่งข้อมูลที่ 1Gbps ใช้กับสาย Multimode Fiber สามารถใช้งานได้ไกลที่ระยะทาง 550 เมตร
• มาตรฐาน IEEE 802.3z(1000Base-LX/EX/ZX) การรับส่งข้อมูลที่ 1Gbps ใช้กับสาย Singlemode Fiber สามารถใช้งานได้ไกลที่ระยะทาง สำหรับ LX ที่ 5 กิโลเมตร, EX ที่ประมาณ 40 กิโลเมตร และ ZX ที่ประมาณ 70 กิโลเมตร
• มาตรฐาน IEEE 802.3ae(10GBase-SR) การรับส่งข้อมูลที่ 10Gbps ใช้กับสาย OM3 Multimode fiber สามารถใช้งานได้ไกลที่ระยะทาง 300 เมตร และ OM4 multimode fiber สามารถใช้งานได้ไกลที่ระยะทาง 400 เมตร
• มาตรฐาน IEEE 802.3ae(10GBase-LR/ER) การรับส่งข้อมูลที่ 10Gbps ใช้กับสาย Singlemode fiber สามารถใช้งานได้ไกลที่ระยะทาง สำหรับ LR ที่ 10 กิโลเมตร และ ER ที่ 40 กิโลเมตร
• มาตรฐาน IEEE 802.3ba(40GBase-SR4/LR4) การรับส่งข้อมูลที่ 40Gbps ใช้กับสาย Multimode fiber สามารถใช้งานได้ไกลที่ระยะทาง สำหรับ SR4 กับสาย OM3 ที่ 100 เมตร หรือสาย OM4 ที่ 150เมตร และ LR4 กับสาย Singlemode fiber ที่ 10 กิโลเมตร
• มาตรฐาน IEEE 802.3ba(100GBase-SR10/LR4/ER4) การรับส่งข้อมูลที่ 100Gbps ใช้กับสาย Multimode fiber สามารถใช้งานได้ไกลที่ระยะทาง สำหรับ SR10 กับสาย OM3 ที่ 100 เมตร หรือสาย OM4 ที่ 150เมตร, LR4 กับสาย Singlemode fiber ที่ 10 กิโลเมตร และ ER4 กับสาย Singlemode fiber ที่ 40 กิโลเมตร
• มาตรฐาน IEEE 802.3bm(100GBase-SR4) การรับส่งข้อมูลที่ 100Gbps ใช้กับสาย Multimode fiber สามารถใช้งานได้ไกลที่ระยะทาง 70 เมตร กับสาย และ 100 เมตร กับสาย OM4

การเลือกซื้อ Ethernet Switch นั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความรู้จักกับโปรโคอล และ Protocol ก็คือ ข้อกำหนดหรือข้อตกลงในการสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือภาษาสื่อสารที่ใช้จะต้องเป็นภาษากลางในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ด้วยกัน การที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกเชื่อมโยงกันไว้ในระบบจะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้นั้น จำเป็นจะต้องมีการสื่อสารที่เรียกว่าโปรโตคอลเป็นภาษาเดียวกัน จึงสื่อสารกันได้ ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญอย่างมาก ตามมาตรฐานนั้นได้แบ่งชั้นการสื่อสารออกเป็น 7 ชั้นหรือเลเยอร์ มีเชื่อเรียกว่า OSI model และโปรโตคอลก็อยู่ในลำดับชั้นของเลเยอร์ทั้งเจ็ดชั้นนี้ด้วย แต่มีโปรโตคอลที่ใช้ในการสื่อสารนั้นมากมาย สำหรับในที่นี้เราจะมาทำความรู้จักกับเลเยอร์ที่ 2 และ 3 ว่ามีโปรโตคอลอะไรบ้างและมีหน้าที่การทำงานกันอย่างไร เพื่อทำความเข้าใจเที่จะเลือกซื้อ Ethernet Switch ได้ถูกต้องนั่นเอง

ความแตกต่างระหว่าง Ethernet Switch Layer 1 กับ Layer 2
Ethernet Switch ทำหน้าที่เชื่อมต่ออุปกรณ์เครือข่ายเข้าด้วยกัน โดยแบ่งตามการทำงานออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ Layer 1 Switch และ Layer 2 Switch

1. Layer 1 Switch
Layer 1 Switch ทำงานในระดับ Physical Layer ทำหน้าที่เหมือน Repeater ทวนสัญญาณดิจิทัลจากพอร์ตหนึ่งไปยังอีกพอร์ตหนึ่ง เปรียบเสมือนตัวขยายสัญญาณ ช่วยให้สัญญาณสามารถส่งได้ไกลขึ้น Layer 1 Switch ไม่สามารถแยกแยะข้อมูลตามที่อยู่ MAC Address ได้ ข้อดีของ Layer 1 Switch คือ มีราคาถูก ติดตั้งง่าย ข้อเสียคือ ประสิทธิภาพการทำงานต่ำ เกิดปัญหา Collision ของข้อมูลได้ง่าย ไม่เหมาะกับเครือข่ายขนาดใหญ่

2. Layer 2 Switch
Layer 2 Switch ทำงานในระดับ Data Link Layer ทำหน้าที่เป็น Bridge ตัดสินใจส่งต่อข้อมูลไปยังพอร์ตปลายทางที่ถูกต้อง โดยอาศัย MAC Address Layer 2 Switch สามารถแบ่งโดเมนการชน (Collision Domain) ของเครือข่ายออกเป็นส่วนย่อย ช่วยลดปัญหาการชนกันของข้อมูล ข้อดีของ Layer 2 Switch คือ ประสิทธิภาพการทำงานสูง เกิดปัญหา Collision น้อย เหมาะกับเครือข่ายขนาดใหญ่ ข้อเสียคือ มีราคาแพงกว่า Layer 1 Switch ติดตั้งและตั้งค่าการทำงานซับซ้อนกว่า

Ethernet MAC address (Media Access Control address) คือ หมายเลขที่ใช้แยกแยะอุปกรณ์เครือข่ายแต่ละตัวซึ่งเชื่อมต่อกับเครือข่าย Ethernet ซึ่งใช้ในการสื่อสารภายในเครือข่าย LAN (Local Area Network) ในระดับของ Layer 2 ของโมเดล OSI (Open Systems Interconnection). MAC address มีความยาว 48 บิต หรือ 6 ไบต์ และสามารถแสดงในรูปแบบของ 12 หลักฮีกซ์เท็กซ์ได้ เช่น `00:1A:2B:3C:4D:5E`.

คุณสมบัติสำคัญของ Ethernet MAC address คือ:

1. ความไม่ซ้ำซ้อน**: MAC address แต่ละตัวมีค่าที่ไม่ซ้ำกันในทั้งโลก ซึ่งได้รับการกำหนดโดย IEEE (Institute of Electrical and Electronics Engineers) และผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายเอทีเอ็ม (Ethernet) ต่างกันจะได้รับการกำหนด OUI (Organizationally Unique Identifier) เพื่อให้ระบบสามารถแยกแยะได้ว่าอุปกรณ์นั้นๆ เป็นของใคร.

2. การใช้งาน**: MAC address ใช้สำหรับการส่งข้อมูลในรูปแบบของ frames ในเครือข่าย Ethernet โดยเครื่องส่งสัญญาณ (switches) และเราเตอร์จะใช้ MAC address เพื่อตรวจสอบว่าแพ็กเก็ตข้อมูลควรถูกส่งไปยังอุปกรณ์ปลายทางใด.

3. การสื่อสาร**: MAC address ถูกใช้สำหรับการสื่อสารแบบ unicast (หนึ่งต่อหนึ่ง), multicast (หนึ่งต่อหลาย), และ broadcast (ส่งถึงทุกๆ อุปกรณ์ในเครือข่าย) ในเครือข่าย LAN เพื่อให้ข้อมูลถูกส่งถึงผู้รับที่ถูกต้อง.

MAC address เป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างของเครือข่าย Ethernet ที่ช่วยให้เครือข่ายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบที่เชื่อถือได้ในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ในเครือข่าย LAN


มาตรฐานโปรโตคอล Layer 2 Switch ทั่วไป
1. IEEE 802.3 Ethernet: เป็นมาตรฐานพื้นฐานสำหรับ Ethernet กำหนดวิธีการเข้ารหัสข้อมูล แบ่งเฟรมข้อมูล และควบคุมการเข้าถึงสื่อ รองรับทั้งแบบ Half Duplex และ Full Duplex
2. IEEE 802.1Q VLAN: (Virtual Local Area Network) ช่วยแบ่งเครือข่าย Layer 2 เฉพาะทางออกเป็นกลุ่มย่อย โดยใช้ VLAN ID แยกตามกลุ่มงาน ฟังก์ชันการทำงาน หรือแผนก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยและการจัดการเครือข่าย
3. IEEE 802.1p Class of Service (CoS): กำหนดระดับความสำคัญของการรับส่งข้อมูล จัดลำดับความสำคัญของแทรฟฟิก ให้แทรฟฟิกที่สำคัญได้รับการส่งต่อก่อน เหมาะกับเครือข่ายที่มีแอปพลิเคชันที่ต้องการแบนด์วิธสูง เช่น วิดีโอคอล
4. STP (Spanning Tree Protocol): ป้องกันปัญหา Loop ในเครือข่าย เลือกเส้นทางหลัก (Primary Path) บล็อกพอร์ตสำรอง (Blocking Port) ป้องกันการส่งข้อมูลวนซ้ำ รักษาเสถียรภาพของเครือข่าย
5. RSTP (Rapid Spanning Tree Protocol): พัฒนาต่อยอดจาก STP ทำงานได้เร็วขึ้น ใช้ท็อปโปโลยีของเครือข่าย ลดจำนวนลูป เหมาะกับเครือข่ายขนาดใหญ่
6. MSTP (Multiple Spanning Tree Protocol): มาตรฐาน Spanning Tree ที่ซับซ้อนที่สุด รองรับ VLAN หลายตัว สร้าง Spanning Tree หลายต้นในเครือข่ายเดียวกัน เหมาะกับเครือข่ายขนาดใหญ่ที่มี VLAN หลายตัว
7. LLDP (Link Layer Discovery Protocol): แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับพอร์ต เช่น ชื่อผู้ผลิต ประเภทอุปกรณ์ ช่วยให้ผู้ดูแลระบบระบุอุปกรณ์และแก้ไขปัญหาได้ง่าย
8. CDP (Cisco Discovery Protocol): คล้ายกับ LLDP แต่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Cisco แลกเปลี่ยนข้อมูลเพิ่มเติม เช่น เวอร์ชัน IOS ประเภทพอร์ต เหมาะกับเครือข่าย Cisco
9. DHCP (Dynamic Host Configuration Protocol): แจกจ่าย IP Address Subnet Mask Gateway DNS Server ให้กับอุปกรณ์ในเครือข่ายอัตโนมัติ ช่วยลดงานในการตั้งค่า IP Address แบบ Manual
10. IGMP (Internet Group Management Protocol): ควบคุมการเข้าร่วมกลุ่ม multicast ช่วยให้สมาชิกในกลุ่ม multicast รับข้อมูล multicast ได้พร้อมกัน เหมาะกับแอปพลิเคชัน multicast เช่น IPTV
หมายเหตุ: มาตรฐานโปรโตคอลเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างทั่วไป ยังมีมาตรฐานโปรโตคอลอื่นๆ อีกมากมาย ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตอุปกรณ์และความต้องการของเครือข่าย

Layer 3 Switch คืออะไร?
Layer 3 Switch หรือที่เรียกว่า Multilayer Switch เป็นสวิตช์ที่ทำงานในระดับ Network Layer (Layer 3) ของโมเดล OSI ทำหน้าที่เชื่อมต่ออุปกรณ์เครือข่ายเข้าด้วยกัน โดยอาศัยที่อยู่ IP Address เปรียบเสมือนเราเตอร์ขนาดเล็ก สามารถกำหนดเส้นทางการรับส่งข้อมูลระหว่างเครือข่ายย่อย (Subnet) ได้โดยไม่ต้องใช้เราเตอร์แยกต่างหาก

การทำงานของ Layer 3 Switch
1. รับเฟรมข้อมูล: Layer 3 Switch รับเฟรมข้อมูลจากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่บนพอร์ต
2. วิเคราะห์ข้อมูล: แยกส่วนหัว (Header) ของเฟรมข้อมูล ตรวจสอบข้อมูล เช่น ที่อยู่ IP Address ต้นทาง (Source IP) ที่อยู่ IP Address ปลายทาง (Destination IP) ชนิดของโปรโตคอล (Protocol Type)
3. กำหนดเส้นทาง: ตรวจสอบ Routing Table เพื่อค้นหาเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดในการส่งต่อข้อมูลไปยังปลายทาง
4. ส่งต่อข้อมูล: ส่งต่อเฟรมข้อมูลไปยังพอร์ตปลายทาง

ข้อดีของ Layer 3 Switch
• ประสิทธิภาพการทำงาน: สามารถกำหนดเส้นทางการรับส่งข้อมูลได้เร็วกว่า Layer 2 Switch เหมาะกับเครือข่ายที่มีการรับส่งข้อมูลข้าม Subnet บ่อยครั้ง
• ลดภาระงานของเราเตอร์: Layer 3 Switch สามารถแบ่งเบาภาระงานของเราเตอร์ ช่วยให้เราเตอร์ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
• ความยืดหยุ่น: รองรับ VLAN หลายตัว ช่วยให้สามารถแบ่งกลุ่มเครือข่ายตามฟังก์ชันการทำงานหรือแผนก
• ความปลอดภัย: รองรับฟังก์ชันการรักษาความปลอดภัย เช่น ACL (Access Control List) ช่วยควบคุมการเข้าถึงเครือข่าย

โปรโตคอลที่รองรับบน Layer 3 Switch
• IP Routing: โปรโตคอลพื้นฐานสำหรับการกำหนดเส้นทาง IP
• RIP (Routing Information Protocol): โปรโตคอลการกำหนดเส้นทางแบบ Distance Vector Routing
• OSPF (Open Shortest Path First): โปรโตคอลการกำหนดเส้นทางแบบ Link State Routing
• EIGRP (Enhanced Interior Gateway Routing Protocol): โปรโตคอลการกำหนดเส้นทางแบบ Cisco Proprietary Routing
• BGP (Border Gateway Protocol): โปรโตคอลการกำหนดเส้นทางระหว่าง Autonomous System (AS)

ตัวอย่างการใช้งาน Layer 3 Switch
• เครือข่ายองค์กร: ใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ในเครือข่ายองค์กร เช่น คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ เครื่องพิมพ์
• เครือข่าย ISP: ใช้เชื่อมต่อลูกค้าเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
• เครือข่าย Data Center: ใช้เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล

สรุป
Layer 3 Switch เป็นอุปกรณ์เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพ เหมาะกับเครือข่ายขนาดกลางถึงใหญ่ ที่มีการรับส่งข้อมูลข้าม Subnet บ่อยครั้ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดภาระงานของเราเตอร์ และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเครือข่าย





ดาวน์โหลดเอกสาร

ดาวน์โหลดแคตตาล็อก "ราคาสินค้า" ข้อมูล ได้ที่นี่ : Click Catalog here ตรงนี้
Download Switch Commercial Manage/Unmanage Layer2 Product catalog ข้อมูล ได้ที่นี่ : Click Catalog here ตรงนี้
Download Switch Commercial and Industrial PoE Manage/Unmanage Layer2 Product catalog ข้อมูล ได้ที่นี่ : Click Catalog here ตรงนี้
Download Switch Industrial Manage Layer2 PoE/Non-PoE Product catalog ข้อมูล ได้ที่นี่ : Click Catalog here ตรงนี้
Download Quick Product catalog ข้อมูล ได้ที่นี่ : Click Catalog here ตรงนี้




รุ่น 100Mbps Switch Ethernet commercial Extender 250 meters (อุปกรณ์กระจายสัญญาณ ระยะสายแลน ไกล 250 เมตร)









รุ่น 1000Mbps Switch Ethernet commercial Extender 250 meters (อุปกรณ์กระจายสัญญาณ ระยะสายแลน ไกล 250 เมตร)









รุ่น 1000Mbps Switch Ethernet commercial manage layer 2 (อุปกรณ์กระจายสัญญาณเลเยอร์ 2 มาตรฐานกระทรวง ICT)








รุ่น 1000Mbps Switch Ethernet Industrial DIN-rail type (อุปกรณ์กระจายสัญญาณ ทนความร้อนสูง)









รุ่น 1000Mbps Switch Ethernet manage layer2 Industrial DIN-rail type (อุปกรณ์กระจายสัญญาณ ทนความร้อนสูง มาตรฐานกระทรวง ICT)









ดาวน์โหลดเอกสาร

ดาวน์โหลดแคตตาล็อก "ราคาสินค้า" ข้อมูล ได้ที่นี่ : Click Catalog here ตรงนี้
Download Switch Commercial Manage/Unmanage Layer2 Product catalog ข้อมูล ได้ที่นี่ : Click Catalog here ตรงนี้
Download Switch Commercial and Industrial PoE Manage/Unmanage Layer2 Product catalog ข้อมูล ได้ที่นี่ : Click Catalog here ตรงนี้
Download Switch Industrial Manage Layer2 PoE/Non-PoE Product catalog ข้อมูล ได้ที่นี่ : Click Catalog here ตรงนี้
Download Quick Product catalog ข้อมูล ได้ที่นี่ : Click Catalog here ตรงนี้




Product Reviews

แนะนำ NCS


Ethernet Switch 100Mbps PoE extender 250เมตร, Commercial


Ethernet Switch 1000Mbps PoE extender 250เมตร, Commercial


Ethernet Switch 1000Mbps PoE Mange L2, ICT, Commercial


Ethernet Switch 1000Mbps PoE Manage/Unmange L2, ICT, Commercial


Ethernet Switch 1000Mbps Manage L2, ICT, Commercial


8 SFP 1 25G Fiber Switch Ethernet


ติดต่อและติดตามข้อมูลข้าวสารได้ที่ด้านล่าง
Website : www.ncsnetwork.com
Line Official : @ncsnetwork
Youtube: https://www.youtube.com/@ncsnetwork1747/videos
Facebook : https://www.facebook.com/profile.php?id=100063883002843&mibextid=LQQJ4d
Tel: 02-508-0977(20 สายอัติโนมัติ)



Youtube click here

Facebook click here


 
2015-08-04
free website stats program