• »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle
  • »
    «
    Sea turtle

username password
Navigation:  Home >> News >> News details
• SFP module transceiver fiber ตราสินค้า BELLCOMMS
SFP module transceiver fiber ตราสินค้า BELLCOMMS
ผู้นำเข้าค้าส่งและปลีก

SFP module transceiver เป็นตัวแปลงจากสัญญาณไฟฟ้าเป็นสัญญาณแสงใช้ในระบบแลนหรือ Ethernet จะใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่เป็น Ethernet Switch หรือ Media converter โดยติดตั้งเข้าไปในพอร์ตมาตรฐานที่เรียกว่า SFP slot ที่มีมาให้ของอุปกรณ์ดังกล่าว ทางบริษัทเป็นผู้จำหน่ายภายใต้ตราสินค้า BELLCOMMS แต่เพียงผู้เดียวภายในประเทศและเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้านี้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน FCC, CE และ ROHS ทั่วโลกให้การยอมรับ

SFP module transceiver แบ่งออกตามการใช้งานร่วมกับสายใยแก้วนำแสง และสายแลน (UTP cable) ดังนี้คือ
• ใช้กับสายใยแก้วที่เป็นชนิด Singlemode มีขนาดสายใยแก้วนำแสงที่ 9/125ไมครอน ตามมาตรฐานคือ ITU-T G.652, ISO/IEC 11810 : OS, IEC60793-2-10/50 : B, ANSI/TIA : TIA-492C
• ใช้กับสายใยแก้วที่เป็นชนิด Multimode มีขนาดสายใยแก้วนำแสงที่ 50/125ไมครอน มาตรฐานคือ ITU-T G.652, ISO/IEC11810 : OM1, OM2, OM3,OM4 และ OM5, IEC60793-2-10/50 : A, ANSI/TIA : TIA492A
• ใช้กับสายแลนตามมาตรฐาน ANSI/TIA-568-C.2 คือ Category 3, 5e, 6, 6a, 7, 7a และ 8 หรือ มาตรฐาน ISO/IEC 11801 Ed. 2.2 คือ Class A, B, C, D, E, Ea, F และ Fa โดยทั้งสองมาตรฐานนี้เหมือนกันและสามารถใช้ทดแทนกันได้ แต่จะแตกต่างกันตรงสถาบันที่ออกมาตรฐานดังกล่าวเท่านั้น

SFP module transceiver มีพอร์ต(จุดต่อใช้งาน)ให้เลือกสำหรับการใช้งานกับสายใยแก้วนำแสงคือ
• จำนวนหนึ่งพอร์ตชนิด Duplex ports(Double fiber) คือเราจะต้องนำสายใยแก้วมาต่อจำนวนสองเส้น(2 cores)จึงจะใช้งานได้
• จำนวนหนึ่งพอร์ตหรือ Simplex ports(Single fiber) คือเราจะต้องนำสายใยแก้วมาต่อจำนวนหนึ่งเส้นก็สามารถใช้งานได้แล้ว และเราเรียกชนิดนี้ว่าเป็น Bidi เทคโนโลยี่คือส่งสัญญาณไปกลับในสายใยแก้วนำแสงเพียงเส้นเดียว หรือ หนึ่งคอร์(1 core) เท่านั้น

SFP module transceiver มีหัวชนิดของหัวต่อให้เลือกใช้งานดังนี้
• หัวต่อชนิด LC connector

SFP module transceiver ต้องเลือกการใช้งานตามระยะทางดังนี้
• สำหรับใช้กับสายใยแก้วนำแสง Multimode มีระยะทางไกลไม่เกิน 2 กิโลเมตร
• สำหรับใช้กับสายใยแก้วนำแสง Singlemode มีระยะทางไกลไม่เกิน 180 กิโลเมตร

SFP module transceiver ต้องเลือกการใช้งานตามการรับส่งข้อมูลดังนี้
• การรับส่งข้อมูลที่ 155 Mbps fiber port
• การรับส่งข้อมูลที่ 1.25 Gbps fiber port
• การรับส่งข้อมูลที่ 1.25 Gbps copper port, 10/100/1,000Mbps
• การรับส่งข้อมูลที่ 10 Gbps fiber port
• การรับส่งข้อมูลที่ 10 Gbps copper port, 10/100/1000/10,000Mbps
• การรับส่งข้อมูลที่ 25, 40, 60, 80, 100 Gbps fiber port

การรับส่งข้อมูลแบบ BiDi (Bidirectional) คือเทคโนโลยีที่อนุญาตให้มีการรับส่งข้อมูลในสองทิศทางผ่านสายหรือช่องสัญญาณเดียวกันในเวลาเดียวกัน เป็นวิธีที่เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานสายเคเบิลและลดจำนวนสายเคเบิลที่จำเป็นสำหรับการรับส่งข้อมูล ทำให้ระบบเครือข่ายมีความยืดหยุ่นและประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น

หลักการทำงานของ BiDi

1. การใช้ความยาวคลื่นที่แตกต่างกัน:
• การรับส่งข้อมูลแบบ BiDi ใช้เทคนิค WDM (Wavelength Division Multiplexing) ซึ่งเป็นการใช้ความยาวคลื่นต่างกันสำหรับการส่งและรับข้อมูล เช่น ความยาวคลื่นหนึ่งสำหรับการส่งข้อมูล และอีกความยาวคลื่นหนึ่งสำหรับการรับข้อมูล
• ในระบบใยแก้วนำแสง (fiber optic), การส่งและรับข้อมูลผ่านสายใยแก้วเดียวกันสามารถทำได้โดยใช้การแยกความยาวคลื่นในการส่งและรับข้อมูล
2. การใช้คู่สายบิดเกลียว (Twisted Pair):
• ในระบบที่ใช้สายเคเบิลคู่สายบิดเกลียว เช่น สาย Ethernet, สามารถใช้เทคนิคที่เรียกว่า Echo Cancellation หรือ Hybrid Circuit เพื่อทำการแยกสัญญาณส่งและรับข้อมูลที่เดินทางผ่านคู่สายเดียวกัน

ข้อดีของการรับส่งข้อมูลแบบ BiDi

1. ลดจำนวนสายเคเบิล:
• สามารถลดจำนวนสายเคเบิลที่ใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ ทำให้การติดตั้งและการจัดการสายเคเบิลง่ายขึ้น
2. เพิ่มประสิทธิภาพ:
• เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานช่องสัญญาณ ทำให้สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้นในแบนด์วิดธ์เดียวกัน
3. ประหยัดค่าใช้จ่าย:
• ลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและบำรุงรักษา เนื่องจากต้องใช้สายเคเบิลและอุปกรณ์น้อยลง

การใช้งานของ BiDi

1. เครือข่ายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Networks):
• ใช้ในระบบใยแก้วนำแสงที่ต้องการลดจำนวนสายใยแก้วและเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งข้อมูล เช่น ในเครือข่ายโทรคมนาคมและระบบเชื่อมต่อระยะไกล
2. เครือข่าย Ethernet:
• ใช้ในระบบ Ethernet ที่ใช้สายคู่บิดเกลียวสำหรับการรับส่งข้อมูล เช่น Ethernet 10GBASE-T, 1000BASE-T
3. ระบบโทรคมนาคม:
• ใช้ในระบบโทรคมนาคมที่ต้องการรับส่งข้อมูลเสียงและข้อมูลดิจิทัลในทิศทางเดียวกัน เช่น ระบบโทรศัพท์และเครือข่ายมือถือ

การรับส่งข้อมูลแบบ BiDi เป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์มากในการเพิ่มประสิทธิภาพการรับส่งข้อมูลและลดความซับซ้อนของระบบเครือข่าย ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญในยุคของการสื่อสารและข้อมูลดิจิทัลในปัจจุบัน


SFP (Small Form-factor Pluggable) module transceiver มีหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน ต่อไปนี้คือชนิดหลักๆ ของ SFP module transceiver:

1. SFP:
- ความเร็ว: 1 Gbps
- ใช้กับ Gigabit Ethernet และ Fibre Channel

2. SFP+:
- ความเร็ว: 10 Gbps
- ใช้กับ 10 Gigabit Ethernet และ 8/10 Gbps Fibre Channel

3. SFP28:
- ความเร็ว: 25 Gbps
- ใช้กับ 25 Gigabit Ethernet

4. QSFP (Quad Small Form-factor Pluggable):
- ความเร็ว: 4 x 10 Gbps (รวม 40 Gbps)
- ใช้กับ 40 Gigabit Ethernet

5. QSFP+:
- ความเร็ว: 4 x 10 Gbps หรือ 4 x 14 Gbps (รวม 40 หรือ 56 Gbps)
- ใช้กับ 40 Gigabit Ethernet และ InfiniBand

6. QSFP28:
- ความเร็ว: 4 x 25 Gbps (รวม 100 Gbps)
- ใช้กับ 100 Gigabit Ethernet

7. QSFP-DD (Double Density):
- ความเร็ว: สูงถึง 400 Gbps
- ใช้กับ 400 Gigabit Ethernet

8. XFP (10 Gigabit Small Form-factor Pluggable):
- ความเร็ว: 10 Gbps
- รุ่นเก่ากว่า SFP+ แต่ยังคงมีการใช้งานในบางระบบ

นอกจากนี้ ยังมีความแตกต่างในแง่ของชนิดสื่อที่ใช้ เช่น:
- SR (Short Range): ใช้กับ multimode fiber
- LR (Long Range): ใช้กับ single-mode fiber ระยะไกล
- ER (Extended Range): ใช้กับ single-mode fiber ระยะไกลมาก
- ZR (Extended Long Range): ใช้กับ single-mode fiber ระยะไกลมากที่สุด
- T (Copper): ใช้กับสายทองแดง


SFP transceiver module เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในระบบ Switch Ethernet Networks หรือระบบแลน บริษัทเป็นผู้จำหน่ายภายใต้ตราสินค้า BELLCOMMS แต่เพียงผู้เดียวภายในประเทศและเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้านี้ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน FCC, CE และ ROHS มีจุดเด่นคือขายในราคาสินค้าที่แข่งขันในตลาดได้และราคาที่เป็นธรรม โดยการคัดสรรสินค้าที่ดีมีคุณภาพมาจำหน่าย โดยมุ่งเน้นการบริการและการรับประกันหลังการขาย โดยบริษัทมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายดังนี้
• 155 Mbps SFP transceiver module fiber port
• 1.25 Gbps SFP transceiver module fiber port/copper port
• 10 Gbps SFP transceiver module fiber port/copper port
• 25 Gbps SFP transceiver module fiber port
• 40 Gbps SFP transceiver module fiber port
• 60 Gbps SFP transceiver module fiber port
• 80 Gbps SFP transceiver module fiber port
• 100 Gbps SFP transceiver module fiber port
• AOC/DAC cable

มีคุณสมบัติพิเศษดังนี้
• มาตรฐาน FCC, CE, ROHS
• และมาตรฐานอื่นๆอีกมากมายที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
ผลิตและจำหน่ายโดยบริษัทที่ได้รับมาตรฐาน
• ISO 9001:2015

ดาวน์โหลดเอกสาร

ดาวน์โหลดแคตตาล็อก "ราคาสินค้า" ข้อมูล ได้ที่นี่ : Click Catalog here ตรงนี้
Download Mdia converter Product catalog ข้อมูล ได้ที่นี่ : Click Catalog here ตรงนี้
Download Quick Product catalog ข้อมูล ได้ที่นี่ : Click Catalog here ตรงนี้










155 Mbps SFP Transceiver module Ethernet (ตัวแปลงสัญญาณไฟเบอร์ออฟติก ชนิด SFP)









1.25 Gbps SFP Transceiver module Ethernet (ตัวแปลงสัญญาณไฟเบอร์ออฟติก ชนิด SFP)










10 Gbps SFP Transceiver module Ethernet (ตัวแปลงสัญญาณไฟเบอร์ออฟติก ชนิด SFP)










40 Gbps SFP Transceiver module Ethernet (ตัวแปลงสัญญาณไฟเบอร์ออฟติก ชนิด SFP)










Product reviews

แนะนำ NCS




รุ่น 155Mbps (100Mbps)


รุ่น 1.25Gbps (1000Mbps)


รุ่น 10Gbps


ติดต่อและติดตามข้อมูลข้าวสารได้ที่ด้านล่าง
Website : www.ncsnetwork.com
Line Official : @ncsnetwork
Youtube: https://www.youtube.com/@ncsnetwork1747/videos
Facebook : https://www.facebook.com/profile.php?id=100063883002843&mibextid=LQQJ4d
Tel: 02-508-0977(20 สายอัติโนมัติ)



Youtube click here

Facebook click here



 
2012-09-11
free website stats program